จากอดีต CEO บริษัท Headhunter ชั้นนำ สู่ผลงานหนังสือพัฒนาตนเองให้เก่งในระดับที่ทุกองค์กรต้องการ

702 จำนวนผู้เข้าชม  | 

จากอดีต CEO บริษัท Headhunter ชั้นนำ สู่ผลงานหนังสือพัฒนาตนเองให้เก่งในระดับที่ทุกองค์กรต้องการ

ครั้งนี้สำนักพิมพ์วิช ได้รับเกียรติจาก คุณนงลักษณ์ ธนรักษ์ อดีต CEO บริษัท Headhunter ข้ามชาติชั้นนำ ผู้เขียนหนังสือ Talented Genius มาถ่ายทอดองค์ความรู้ ที่มาที่ไปของการเขียนหนังสือดี ๆ หนังสือที่เป็นประโยชน์ โดยใช้ประสบการณ์ในชีวิตที่ทำงานด้านบริหารและสัมผัสผู้คนมากว่า 20 ปี มาถ่ายทอดเป็นคู่มืออาชีพ คู่มือชีวิต และการเดินทางสู่เส้นทางความสำเร็จในการทำงานกับหนังสือ Best Seller ชื่อ Talented Genius เผยรหัสลับ DNA คนเก่ง เปลี่ยนตนเองสู่ยอดมนุษย์ Hi-Po

ต้องขอบคุณสำนักพิมพ์วิชที่ทำให้หนังสือออกมาเป็นรูปเล่มสวยงามแบบนี้ ซึ่งเนื้อหาเล่มนี้ทำได้ดีมาก เป็นหนังสือที่เปิดอ่านแล้ว รู้เลยว่าหนังสือเล่มนี้ให้อะไรกับเราบ้าง เราจะได้รับการพัฒนาตนเองให้เป็นคนที่ดีขึ้น เก่งขึ้นจากหนังสือเล่มนี้

 
จุดเริ่มต้น ก่อนจะมาเขียนหนังสือเล่มนี้

เริ่มต้นเลยพี่จบอักษรศาสตร์ จุฬาฯ จากนั้นก็เรียนต่อด้านการตลาด และไปเรียนต่อด้านสิ่งแวดล้อมที่อังกฤษ ช่วงปี 2540 ซึ่งเป็นช่วงวิกฤติต้มยำกุ้งพอดี เรียนจบกลับมาปี 2541 ก็ทำงานด้าน Executive Search เป็น Headhunter มีโอกาสได้ดึงคนเก่ง ๆ ที่เขาตกงาน ถูก Lay off ทั้ง ๆ ที่ยังเป็นคนมีความสามารถ กลับเข้าไปทำงานดี ๆ ได้ จากนั้นมาเจอวิกฤติอีกครั้งในปี 2562 คือวิกฤติ Covid-19 ซึ่งหนักมาก ณ ตอนนั้น เรายังไม่รู้เลยว่าปัญหาจะใหญ่หลวงขนาดนี้ วิกฤติมันวนกลับมา


Headhunter ภารกิจของบริษัทนี้ทำเกี่ยวกับอะไร

คนมักจะสับสนระหว่าง Recruitment กับ Headhunter นะคะ Recruitment คือทำหน้าที่หาคนโดยอ่านจาก CV ที่มีอยู่แล้ว แต่สำหรับ Headhunter จะเป็นโจทย์ที่ บริษัทหาพนักงานที่ต้องการไม่ได้แล้ว อันนี้เป็นโจทย์ยากของ Headhunter เป็นตำแหน่งงานที่น้อยคนจะทำได้ บางตำแหน่งคนไทยทำไม่ได้ ต้องจ้างต่างชาติมาทำ


จากจุดเริ่มต้น มาเป็นหนังสือ Talented Genius เล่มนี้ได้อย่างไร

ช่วง Covid-19 ระลอกแรกจำได้ว่า Lockdown เดือน มีนาคม เป็นช่วงเวลาที่ทรมานมากเพราะต้องอยู่บ้าน แต่ด้วยเป็นคนชอบอ่านหนังสือ ก็หยิบเอาหนังสือเก่า ๆ มานั่งอ่าน ส่วนมากจะอ่านหนังสือเกี่ยวกับธุรกิจ เรื่องคน เรื่องการคัดเลือกคนเก่ง จบแล้วก็เขียนสรุปไว้ แล้วก็มานึกได้ว่าสิ่งที่เราอ่านแล้วสรุป มันเป็นประโยชน์ต่อคนอีกหลาย ๆ คน ที่เขาไม่มีโอกาสได้อ่านหนังสือเหล่านี้ คือพี่อ่านหนังสือภาษาอังกฤษกรณีศึกษาก็เป็นของต่างประเทศ ซึ่งไม่ค่อยเข้ากับคนไทย
 
ก็เลยมีความคิดว่า อยากเขียนหนังสือให้คนไทยอ่าน โดยเพิ่มกรณีศึกษาที่เป็นของคนไทยจริง ๆ เข้าไป ให้เห็นภาพ ให้ผู้อ่านสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับงานของเขาหรือตัวของเขาได้จริง ๆ มันจะมีประโยชน์มากเลย และคิดว่าความรู้ที่เรามีอยู่ เราไม่อยากเสียไปโดยที่ไม่มีประโยชน์ ในเมื่อเรายังมีโอกาสที่จะทำประโยชน์ให้กับบุคคลทั่ว ๆ ไปได้


วันที่คุณนงลักษณ์ติดต่อมา ช่วงนั้นเป็นช่วง Covid-19 ใหม่ ๆ คุณนงลักษณ์บอกเลยว่า เดี๋ยวสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือบริษัทจะล้มมากมาย แล้ว Lay off เอาคนออกเป็นอันดับหนึ่งเลย

ณ วันนั้นที่เราคุยกัน ระรอก 3 ยังไม่มา ระรอก 2 ยังไม่มี ระรอก 1 เราก็สาหัสแล้ว ตอนนี้เรียกได้ว่าเจ็บปวดมาก ๆ ซึ่งต้องใช้เวลาอีกหลายปีที่จะเยียวยา จากเหตุการณ์นี้คนจะต้องตกงานอีกมาก ณ วันที่เราคุยกันนี้ มีสถิติออกมาแล้ว ว่ามีคนตกงานกว่า 8 ล้านคน จากจำนวนคนที่ทำงานอยู่ 38 ล้านคน


จากที่เป็นนักบริหารมาโดยตลอด ในการทำหนังสือเล่มนี้มีความยากลำบากไหม

หนังสือเล่มนี้ พี่เอาประสบการณ์ที่พี่ทำงานใส่เข้าไปในหนังสือด้วย เช่น คุณสมบัติของคนเก่ง หรือ DNA คนเก่ง 20 ข้อ ก็รวบรวมมาจากความต้องการของแต่ละบริษัท ไม่ได้คิดขึ้นมาเองโดยไม่มีข้อมูล บริษัท 100 ราย ทุกรายต้องการพนักงานที่มีคุณสมบัติ 1 ใน 20 ข้อนี้ อาจจะ 15 ใน 20 นี้ แต่ไม่หลุดไปจากนี้ ก็เลยสรุปมาได้ว่า สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณควรจะมี ถ้าคุณมี 15 ข้อนี้ คุณสอบผ่าน แล้วก็เป็นคนที่บริษัทต้องการตัวแน่นอน  
 

ที่มาของชื่อหนังสือ Talented Genius

Talented Genius พี่ชอบคำนี้ เพราะพี่หาคำไทยที่จะมาเป็นตัวแทนของตัวตนนี้ไม่ได้ ก็เลยได้คำนี้มา คือ เป็นคนที่ฉลาด เก่ง กลมกล่อม เป็นคนดีด้วย เก่งด้วย คนดีอย่างเดียวแต่ไม่เก่งก็ไม่เหมาะ หรือเก่งแต่ไม่ดี โกง ก็ทำบริษัทเจ๊งได้ เพราะฉะนั้นคนดีกับคนโกง ถ้าให้นายเลือก รับรองว่านายต้องเลือกคนดีแต่เก่งน้อยหน่อย


จากชื่อ เผยรหัสลับ DNA คนเก่ง เปลี่ยนตนเองสู่ยอดมนุษย์ Hi-Po ยอดมนุษย์ Hi-Po เป็นอย่างไร

มนุษย์ Hi-Po ก็คือ มนุษย์ Hi-Potential คือ คนที่มีศักยภาพที่จะพัฒนาไปได้เรื่อย ๆ ไม่มีหยุด ตั้งแต่เป็น Management Trainee วนไปทุกแผนก เรียนรู้ทุกแผนก เพื่อจะเห็นภาพรวมของบริษัท แล้วหากคุณเก่งตรงไหน ถนัดตรงไหน ผู้ใหญ่จะจับคุณไปโตตรงนั้น อาจจะมีการวนไปทำงานเมืองนอก ยิ่งวนเยอะ ยิ่งมีโอกาสได้เป็น CEO สูง

 
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าใครเป็น มนุษย์ Hi-Po มีตัวชี้วัดอะไร

ตัวชี้วัดเยอะมาก ต้องซื้อหนังสืออ่าน มีเช็คลิสต์อยู่ประมาณ 20 ข้อ และยังมีในเรื่องของ GRIT เรื่องของ Growth Mindset คุณต้องมี Mindset ที่ถูกต้อง คุณต้องมี Attitude ที่ดี คือ มีหลาย ๆ อย่างรวมกัน มันไม่มีคำตอบสำเร็จรูปที่ว่าคุณทำแค่นี้แล้วคุณคือคนดี มันไม่ง่าย ซึ่งคนที่เป็นคนดีส่วนใหญ่จะเป็นคนต้นแบบในองค์กร
 
หนังสือเล่มนี้ทุกคนควรจะมี ราคาไม่แพง แต่ได้พัฒนาตัวเองจนสามารถทำเงินได้มหาศาล พี่ไม่ได้เกิดมาเป็นคนเก่ง เรียนหนังสือพอใช้ได้ แต่เวลาทำงาน คนเก่ง กับคนทำงานเก่ง ไม่เหมือนกัน เราต้องมีนายที่ดี มีโค้ชที่ดีมาโค้ชเรา ในเมื่อเราไม่มีโค้ช ในระหว่างทางเราเรียนรู้สิ่งเหล่านี้แล้ว เราจึงมาเขียนหนังสือให้เหมือนโค้ชส่วนตัว เพื่อที่จะให้คนอื่นได้มีโอกาสที่จะมีโค้ชส่วนตัว โดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินแพง
 

ชีวิตคนเราจำเป็นต้องมีโค้ช และส่วนหนึ่งของโค้ชก็คือหนังสือดี ๆ สักเล่มหนึ่ง ที่จะทำให้เราเป็น Talented Genius ได้เหมือนกัน

Talented Genius ทุกคนสามารถฝึกได้ ถ้าเราตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลง เราเปลี่ยนแปลงได้ เราต้องการที่จะเป็นคนเก่ง เราเก่งได้ เราต้องทำ หนังสือเล่มนี้ 2 บทสุดท้าย จะพูดถึงเรื่องการออกจาก Comfort Zone ก่อนที่เราจะเก่งได้ เราต้องออกจาก Comfort Zone แล้ว เราจะได้เรียนรู้


ทุกวันนี้มีคำพูดที่ว่าถ้าเราไม่รีบเปลี่ยนแปลงตัวเอง สักวันหนึ่งสังคมจะบังคับให้เราเปลี่ยนเอง

อันนี้แน่นอน ทุกวันนี้สังคมบังคับเราอยู่แล้ว ตั้งแต่ Work from Home และ Technology ซึ่งมันบังคับเราด้วยวิกฤติ ไม่มีโอกาสให้เราเลือก ฉะนั้นถ้าเราไม่บังคับตัวเราเองให้เปลี่ยนแปลง เราตกยุค ยิ่งตกยุคนาน ยิ่งตามไม่ทัน


หากมีคนที่อยากเป็นนักเขียนได้แบบนี้บ้าง คุณนงลักษณ์จะแนะนำให้เริ่มต้นอย่างไร

พี่ไม่ชอบเขียนนิยาย แต่ชอบเขียน Non-fiction เขียนเกี่ยวกับความรู้ ซึ่งเวลาที่จะเขียน ต้องรวบรวมความรู้ทั้งหมดที่เรามีอยู่ อ่านหนังสือให้เยอะ แล้วก็มาเรียบเรียง จัดลำดับว่าเรื่องไหนควรมาก่อนมาหลัง

อย่าง Talented Genius เล่มนี้ พี่ก็จัดลำดับว่าเปิดมาต้องพูดถึงวิกฤติก่อน ตามด้วยเรื่อง DNA คือลำดับเรื่องต้องมีเหตุผล ไม่ใช่กระโดดไปมา ทุกอย่างต้องลำดับชัดเจน เล่มนี้มีไปจนถึงการสัมภาษณ์งาน และเรื่องทักษะที่สำคัญในอนาคต ว่าต่อไปทักษะอะไรที่คุณต้องมี

สิ่งที่เราเขียน ต้องเขียนเรื่องที่เราถนัดที่สุด สะท้อนถึงทักษะของเรา โดยเริ่มจากวางโครงให้ชัดเจนก่อน เพราะหากไม่มีโครง คุณเขียนไป คุณจะจบตรงไหนไม่รู้ โครงเรื่องจะทำให้เราเห็นว่าทั้งเล่มนี้จะเป็นยังไง ขึ้นต้นให้สวย ช่วงกลางสนับสนุนช่วงต้น ช่วงท้ายปิดอย่างงดงาม

อยากฝากอะไรถึงผู้อ่าน

พี่ไม่ได้เขียนหนังสือสอนให้คนรวย มีกี่คนที่ซื้อหนังสือแล้วรวยตามหนังสือที่ซื้อ แต่พี่เขียนหนังสือสอนให้คนเก่ง พี่คิดว่าถ้าคนทำตามหนังสือที่พี่เขียนรับรองว่าเก่ง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้